การปฏิบัติตัวที่จะช่วยให้ห่างไกลโรค

ปัจจัยหลักๆเลยคงเป็นเรื่องกินดีอยู่ดี 

การกิน : พออิ่ม อาหารที่เรากินอยู่ทุกวันนี้ล้วนมีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรค อาจเพราะติดในวัตถุดิบที่นำมาปรุง รสชาติ การใช้ชีวิตเร่งรีบที่หันไปนิยมอาหารจานด่วน หรือแม้กระทั่งรสนิยม จริงๆ แล้วอาหารสุขภาพเป็นอาหารที่เหมาะสมสำหรับคนทุกวัย เพราะนอกจากทำให้คนเราอายุยืนแล้ว ยังช่วยให้แก่ช้าอีกต่างหาก อาหารที่ว่านี้ ได้แก่ ข้าวไม่ขัดสี น้ำตาลไม่ขัดสี เนื้อสัตว์ที่ย่อยง่าย เช่น เนื้อปลา หรือ ถ้าใครติดแกงใส่กะทิลองเปลี่ยนเป็นน้ำเต้าหู้ดู ที่แน่ๆแต่ละมื้อต้องมีผัก ผลไม้ และดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว รวมถึงเลิกสูบบุหรี่ เลิกดื่มน้ำเมา เข้าทำนองเลือกกินเพื่ออยู่ ไม่ได้อยู่เพื่อกิน

ออกกำลังกาย : เป็นประจำ ขอให้ทำทุกวัน การออกกำลังกายเบาๆทุกวันได้ผลดีกว่าหักโหมออกกำลังกายหนักๆเพียงไม่กี่ครั้งต่อสัปดาห์ ข้อดีคือจะช่วยให้ร่างกายปรับความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปรกติ และช่วยให้หัวใจและหลอดเลือดได้ออกกำลังไปด้วย วิธีง่ายๆคือเดินหรือทำงานที่เคลื่อนไหวติดต่อกันห้ามหยุดอย่างน้อย 30 นาที ในผู้สูงอายุอาจพักเป็นระยะได้

พักผ่อน : ให้เพียงพอ การใช้ชีวิตแบบสมบุกสมบัน ไม่ถนอมร่างกาย ขาดการพักผ่อน จะทำให้ร่างกายเสื่อมเร็วขึ้น และอาจอายุสั้นเร็วขึ้นด้วย ลองเลือกดูว่าคุณจะให้เวลาส่วน หนึ่ง หรือจะเพิกเฉย ไม่สนใจ แล้วยังใช้ชีวิตอย่างที่อยากทำ จนวันหนึ่งร่างกายฟ้องขึ้นมา เมื่อนั้นอาจไม่มีวันได้แก้ตัวใช้ชีวิตอีกเลยก็ได้

การดูแลตัวเอง

เรื่องการดูแลตัวเองจาก สสส. 

สิ่งแรกเลยที่เราคงต้องดูกันนิดนึงคงเป็นเรื่อง พันธุกรรม จริงๆเรื่องนี้มีผลต่อสุขภาพมาก แม้ไม่สามารถแก้ไขได้ แต่การตระหนักจะทำให้เรารับมือกับโรคอย่างเข้าใจและปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้อง ซึ่งมีอยู่หลายโรคด้วยกัน เช่น มะเร็ง ธาลัสซีเมีย ไขมันในเลือดสูง 
การปฏิบัติจะทำอย่างไรจึงจะช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงจากโรคกรรมพันธุ์บางโรคได้เดี๋ยวมาตามกันในหัวข้อต่อไปนะคะ

"ยิ้มเข้าไว้" ช่วยให้ยังคงหนุ่มสาว

นักวิทยาศาสตร์บอกให้เราหมั่นยิ้มกันเข้าไว้ เพราะเป็นวิถีทางธรรมชาติที่จะทำให้ดูหนุ่มสาวอยู่เสมอ

นักวิจัยของสถาบันพัฒนามนุษย์ของเยอรมนี ได้พบว่า เมื่อใครเห็นรูปภาพของคนหน้าตาเป็นสุข มักจะทายอายุผิดว่าหนุ่มสาวกว่าความเป็นจริง ต่างกับหน้าของคนเรียบเฉยหรือกำลังโกรธ

พวกเขากล่าวว่า นับเป็นการศึกษาที่แสดงให้เห็นเป็นครั้งแรกว่าการแสดงออกทางใบหน้า เป็นเหตุผลใหญ่ที่ทำให้การทายอายุต้องผิดพลาดลง

หัวหน้านักวิจัยได้ชี้ว่า เรื่องเช่นนี้นับว่ายิ่งสำคัญเป็นพิเศษ ในยามที่เครือข่ายเป็นที่นิยมกันอยู่ ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนภาพถ่ายกันอยู่ประจำ

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Beauté équilibrée

ครีมกันแดด สำคัญนะ

เห็นแดดอ่อนๆอย่างนี้อย่าคิดว่าไม่ต้องทากันแดดก็ได้พักผิวบ้าง อันนี้ห้ามเด็ดขาดนะคะ เพราะอะไรนะเหรอ ก็เพราะว่ารังสี UV หน่ะซิคะ UV เป็นตัวที่เกี่ยวข้องกับพวกเรามากที่สุดในชีวิตประจำวัน เพราะมันสามารถทะลวงผ่านชั้นผิวหนังของเราได้ เป็นเหตุให้เกิดผลอื่นๆ ตามมา เช่น ผิวหมองคล้ำ ริ้วรอย ตีนกา มะเร็งผิวหนัง เป็นต้น อย่างที่เราๆท่านๆ รู้กันอยู่แล้วนะคะว่า รังสี UV เนี่ยมันมีทั้งรังสี UV A และ รังสี UV B ซึ่งทั้งสองตัวนี้ต่างกันยังไงนะเหรอ

• รังสี UVB

มีความยาวคลื่นอยู่ระหว่าง 280-320 nm. ซึ่งเป็นช่วงความยาวคลื่น ที่ทำให้เกิดผื่นแดงและไหม้เกรียมได้ เพราะมันสามารถทะลุผ่านผิวหนังชั้นสเตรตัม คอร์เนียม (Stratum corneum) และอีพิเดอมีส (Epidermis) ได้ รังสีนี้จะทำให้เกิดผลเสียต่อผิวหนังในทันที เช่น ผิวไหม้เกรียม ผื่นแดงเป็นต้น

• รังสี UVA

มีช่วงความยาวคลื่นอยู่ที่ 320-360 nm. รังสีช่วงนี้จะมีพลังงานต่ำสุด แต่มีอำนาจทะลุทะลวงผ่านชั้นผิวหนังได้ลึกที่สุด และมีผลกระทบเป็นวงกว้างต่อโครงสร้างชั้นผิวหนัง รังสีนี้ในปริมาณน้อยก็สามารถทะลุผ่านชั้นหนังแท้ (Dermis) ได้ ซึ่งจะไปกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินได้มาก และเมลานินนี้จะไปปกป้องผิวจากการถูกทำลายอีกต่อหนึ่ง

รังสี UVB มีผลทำให้เกิดอาการผิวไหม้แดงได้เป็นส่วนใหญ่ และรังสี UVA ที่ปริมาณสูงก็ทำให้ผิวไหม้แดงได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ ปริมาณรังสี UVA ที่ลงมาถึงผิวโลกจึงมีมากกว่ารังสี UVB มาก รังสี UVA ที่สูงนี้สามารถทะลุผ่านเข้าสู่ชั้นผิวหนังได้ และทำให้เกิดการทำลายโครงสร้างผิวตามมา เช่น คอลลาเจนและอีลาสติน เป็นต้น

ดังนั้นการสัมผัสกับแสงแดดนานๆ โดยเฉพาะรังสี UVA ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระที่ผิวหนังได้ และอนุมูลอิสระนี้จะไปทำลายเซลล์ผิวหนัง จากภายในเซลล์เอง และทำลายชั้นของเส้นใยคอลลาเจน และอีลาสติน ทำให้เกิดผิวหนังหมองคล้ำ หย่อนยาน เกิดรอยตีนกามากมาย ทำให้เกิดสภาวะที่เรียกว่า แก่ก่อนวัยอันเกิดจากแสงแดด

ด้วยเหตุนี้ ครีมกันแดดจึงมีส่วนช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ -- นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเราจึงต้องใช้ครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน

Beauté

Electroporation

คืนผิวสวย โดยไม่กลัวเข็ม

 ความสวย ใครๆก็อยากได้ แต่ถ้าต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด ก็ต้องคิดหนักเหมือนกันใช่มั๊ยค่ะ มีสมาชิกสอบถามกันมากมายค่ะ ว่ามีวิธีการอะไรบ้างมั๊ย ที่ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องถูกฉีดด้วยเข็ม เลยขอแนะนำเทคโนโลยีใหม่ ในการผลักยาเข้าสู่ผิว โดยไม่ต้องใช้เข็ม ค่ะ 

สำหรับใครที่กลัวหรือไม่ชอบเข็ม Electroporation เป็นเทคโนโลยีใหม่ในการผลักยาโดยไม่ต้องใช้เข็ม   ขจัดข้อด้อยของเครื่องมือผลักยาแบบเดิม Electroporation คือ อะไร อ่านรายละเอียดได้เลยค่ะ

Electroporation คืออะไร

โดยทั่วไปนั้นแพทย์พบว่ายิ่งนำยาและสารออกฤทธิ์ลงไปใต้ผิวได้ลึกเท่าไหร่ ก็ยิ่งก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการรักษาได้มากเท่านั้น การฉีดยาจึงเป็นวิธีการที่แพทย์ผิวหนังยังคงนิยมใช้กับคนไข้อยู่ แต่ปัญหาก็คือ คนไข้มักจะกลัวหรือไม่ชอบเข็ม

มีความพยายามคิดค้น เครื่องมือผลักยา ขึ้นมาในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น ผลักยาลงไปได้ไม่ลึกเท่าเข็ม ผลักยาที่มีโมเลกุลใหญ่ๆ ไม่ได้ เป็นต้น

Electroporation  เป็น เครื่องมือผลักยา ลงไปใต้ผิวที่ไม่ต้องใช้เข็ม แต่มีประสิทธิภาพเทียบเท่าการฉีดยาโดยใช้กระแสไฟฟ้าในระดับคลื่นที่ปลอดภัย ไปกระตุ้นให้เยื่อหุ้มเซลล์เปิดออกเป็นช่องทางให้ตัวยาลงไปสู่ใต้ผิว

Electroporation  ใช้ทำอะไรได้บ้าง

           -   ใช้ผลักยาไวท์เทนนิ่ง รักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ
           -   ใช้ผลักยาลดสิวอักเสบ และสิวอุดตัน
           -   ใช้ผลักยาช่วย ลดริ้วรอย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
           -   ทำให้คนไข้ไม่ต้องเจ็บตัวและไม่มีรอยช้ำจากเข็มหลังทำ

กินตาม “ธาตุเจ้าเรือน”

 ตามหลักอายุเวทนั้น ร่างกายของแต่ละคนจะมีธาตุพื้นฐานที่แตกต่างกันออกไป ทั้ง ดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดบุคลิกและอุปนิสัยที่แตกต่างกันออกไปด้วย

       ส่วนใครอยากรู้ว่าตัวเองเป็นคนธาตุอะไร วิธีที่ง่ายและชัดเจนที่สุดนั้น ให้ดูจากวัน เดือน ปี เกิด ก็จะรู้ว่าเราเป็นคนธาตุอะไรแล้ว

    เริ่มที่ “ธาตุไฟ” คือผู้ที่เกิดระหว่างเดือน ธ.ค.-มี.ค. ในทางจิตวิทยาคนธาตุนี้จะเป็นคนที่มีความสามารถในการเข้าใจเรื่องราวได้ดี มีความฉลาดเฉียบคมและเป็นนักพูดที่ดี เป็นคนที่มีความมุ่งมั่นสูงชอบการเป็นผู้นำ ถ้าให้เป็นผู้ตามเมื่อไหร่ละก็คนธาตุนี้ไม่ยอมเด็ดขาด และชื่นชอบความหรูหราเป็นชีวิตจิตใจเลยทีเดียว

      เนื่องจากคนธาตุนี้มีความร้อนในตัวสูง ดังนั้น ระบบย่อยอาหารจึงดีกว่าคนธาตุอื่น สามารถรับประทานอาหารและเครื่องดื่มได้อย่างหลากหลาย ส่วนโรคที่จะพบบ่อยคือมักเป็นไข้ตัวร้อนได้ง่าย ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการทำงานในช่วงเวลาที่แดดจัดๆ และไม่ควรรับประทานอาหารที่เผ็ดร้อนมากจนเกินไป เพราะจะยิ่งเพิ่มความร้อนในกายขึ้นไปอีก

    อาหารที่เหมาะกับคนธาตุนี้ควรมีรสหวาน ขม และฝาด เช่น ตำลึง ผักคะน้า แตงกวา มะระขี้นก มะระ ถั่วฟักยาว ส่วนผลไม้นั้นควรเป็นผลไม้ที่ให้ความเย็นสดชื่นอย่าง มะพร้าว ส้มเขียวหวาน แตงโม ทับทิม ฯลฯ ที่สำคัญเพื่อปรับธาตุให้สมดุลยิ่งขึ้นควรนำเครื่องเทศที่ให้พลังเย็นอย่าง ลูกผักชี ลูกกระวาน อบเชย มาเป็นส่วนประกอบในอาหารด้วย เพราะสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะช่วยคลายความร้อนในตัวได้

    “ธาตุลม” คือผู้ที่เกิดระหว่างเดือน เม.ย.-ก.ค. คนกลุ่มนี้นับว่าเป็นนักสร้างสรรค์ มีความกระตือรือร้นสูง สามารถเรียนรู้อะไรได้เร็ว แต่ก็ลืมเร็วเช่นกัน ค่อนข้างเป็นคนตื่นเต้นง่าย เป็นนักฝันตัวยง มีจินตนาการสูง เพราะฉะนั้น จึงไม่แปลกถ้าจะเห็นคนธาตุนี้เป็นศิลปินนักร้อง นักเขียน สถาปนิก ฯลฯ ที่สำคัญหาเงินได้อย่างคล่องตัว แต่ขณะเดียวกันก็จ่ายคล่องอีกเช่นกัน

      ส่วนใหญ่แล้วหนุ่มสาวธาตุลมระบบการย่อยอาหารทำงานช้ามาก จึงทำให้คนธาตุนี้มักประสบกับปัญหาโรคท้องอืด ท้องเฟ้อ และหน้ามืดเป็นประจำอันเนื่องมาจากลมที่อยู่ในตัวไม่เคลื่อนที่ ดังนั้น

 ไม่ควรทานอาหารที่มีรสชาติเผ็ดร้อนเพราะจะยิ่งทำให้ลมปั่นป่วนมากยิ่งขึ้น

    อาหารที่เหมาะสำหรับคนธาตุนี้คืออาหารที่ให้รสหวาน เปรี้ยวและเค็ม เช่น ยอดมะพร้าว กะหล่ำปลี แครอท มะเฟือง ยอดชะมวง ฯลฯ ควรนำไปผัดด้วยน้ำมัน หรือ ผสมในแกงกะทิ แกงจืด หรือสลัดผักก็ได้ ส่วนผลไม้ที่เหมาะกับคนธาตุนี้ต้องมีรสเปรี้ยวหรือหวานเท่านั้น อย่าง มะยม กล้วยน้ำว้า ส้มเขียวหวาน ลำไย ทับทิม ฯลฯ

     “ธาตุดินน้ำ” คือผู้ที่เกิดระหว่างเดือน ส.ค.-พ.ย. เป็นกลุ่มคนที่ถือได้ว่าสุขภาพดีกว่าทุกธาตุ น้ำหนักขึ้นง่ายแต่ลงช้า มักจะแข็งแรงทนได้กับทุกสภาพอากาศไม่ค่อยเจ็บป่วยง่าย แต่มักจะแพ้ภัยตัวเอง เมื่อไรก็ตามที่รับประทานอาหารไม่สดใหม่ หรือของหมักดอง คนธาตุนี้จะสำแดงอาการอาหารเป็นพิษในทันที

       อาหารที่คู่ควรรับประทานมากที่สุดคืออาหารที่ให้ รสเผ็ด ฝาด และขม 

อย่าง ผักใบเขียวที่มีรสขม ฟักทอง ยอดฝรั่ง แมงลัก โหระพา ยี่หร่า มะตูมอ่อน ข่า ไพล แกงจืดตำลึง แกงจืดมะระ (ใส่น้ำมันน้อย) เป็นต้น

       ...ถึงแม้ว่าสภาพอากาศอาจทำให้ลักษณะที่แท้จริงของแต่ละธาตุเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่นิสัยและอาการของโรคนั้นไม่สามารถเปลี่ยนผันได้อย่างแน่นอน รู้จักป้องกันวันนี้ดีกว่าวัวหายแล้วล้อมคอกเป็นไหนๆ

WE Magazine

HiSo Party

ทำไมเราถึงหน้ามันมากขึ้น

ว่ากันว่าทุกวันนี้ สภาพผิวหน้าของชาวเมืองใหญ่ มีแค่ สภาพ แห้งแต่มัน และ มันและมัน และ แห้งเป็นขุย แทบจะหาผิวที่เรียกว่าผิวธรรมดาไม่เจอแล้ว

     ทั้งนี้สาเหตุเกิดมาจากการเสียความสมดุลของผิว คุณสมบัติการอุ้มน้ำของผิวเสียไป ทำให้หน้าเราต้องปกป้องตัวเองด้วยการสร้างน้ำมันมาปกคลุมผิวนั่นเอง ฉะนั้นสาวๆก็ต้องเตรียมตัวให้ดี ดื่มน้ำมากๆ นอนเยอะๆ ทานผักผลไม้ ด้วยนะคะ ที่สำคัญมาให้โบเต้ ช่วยดูแลคุณ โดยเฉพาะทรีทเม้นท์ Barrier Repair ซึ่งมาส์คหน้าของเราจะช่วยปรับสมดุลการอุ้มน้ำของเซลผิว เพื่อนำผิวที่ดีของคุณกลับคืนมานะคะ

Bright,Repair,EF Treatment

Treatment

Barrier Repair Treatment 

คืนสมดุลของเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง เนื่องจากสาเหตุของการเผชิญแสงแดด หรือแสงไฟจากการทำงานภายในออฟฟิต รวมถึงสารเคมีที่ตกค้างอยู่บนใบหน้าโดยการกระตุ้นและเสริมสร้างเกราะป้องกันของผิวโดย Vital Organic Water อาหารผิวมหัศจรรย์ที่คืนความสมดุลของผิวให้คุณได้ทันที

Treatment

Beauté EF Treatment

กระจ่างใส ยกกระชับ และปกป้องผิวในหนึ่งเดียวเพื่อคืนธรรมชาติที่ดีสู่ผิวของคุณ ด้วยนวัตกรรมของ Electrical Pen และ Beauté Bright stem cell จึงช่วยให้ภายหลังการทำทรีทเมนท์ใบหน้าจึงดูเปล่งปลั่ง สว่างไส ยกกระชับได้รูปประดุจผิวได้เกิดใหม่

beauté équilibrée

beauté  équilibrée ของเราได้ศึกษา และทดลองทั้งศาสตร์แผนปัจจุบัน แผนโบราณ และเทคโนโลยีมากมาย เพราะเราอยากได้สิ่งที่ดีที่สุดเพื่อผิวของคนไทย ในที่สุด เราก็ค้นพบเทคนิคการผสมผสานระหว่างศาสตร์การกดจุดบำบัดโบราณร่วมกับนวัตกรรมล่าสุด ในการฟื้นฟู และปรนนิบัติผิวอย่างอ่อนโยน

      โดยเทคโนโลยีที่ว่าก็คือ Electrical Pen ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่รับรองคุณภาพจาก FDA ประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึง CE 0120 จากสหภาพยุโรปว่าเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ และรับการยอมรับอย่างกว้างขวางมาแล้วทั่วโลก และเรายังทดสอบจนกระทั่งพบผลิตภัณฑ์สูตรที่เราคัดเลือกมาโดยเฉพาะ สำหรับลูกค้าของ  beauté  équilibrée ที่ต้องการแก้ปัญหาผิวที่ต้นเหตุของปัญหาโดยตรง โดยการปรับสมดุลขององค์ประกอบของผิวอย่างเป็นระบบเพื่อนำธรรมชาติที่ดีของผิวคุณกลับคืนมา 

     เพียงเข้ารับทรีทเมนท์ 1-2 ครั้งแรก จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง ใบหน้าเปล่งปลั่ง อ่อนเยาว์ขึ้น ใบหน้ายกกระชับ อย่างเห็นได้ชัดเจน

ระบบการอ่านแผนที่สภาพผิว

“ระบบการอ่านแผนที่สภาพผิว” ที่ผสานศาสตร์จีนและศาสตร์ตะวันตกเข้าด้วยกัน โดยการแบ่งผิวหน้าออกเป็น 14 โซน ทั้งนี้การวิเคราะห์สภาพผิวตามแต่ละโซนนี้ จะชี้ให้เห็นถึงปัญหาต่างๆบนผิวหน้า ซึ่งจะช่วยให้การบำบัดรักษาผิวสามารถทำได้อย่างถูกต้องยิ่งขึ้น ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวในแต่ละโซน ซึ่งช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดนอกจากนี้ วิธีการ Face Mapping นี้ ยังสามารถช่วยป้องกันปัญหาผิวพรรณที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย ทีนี้มาทำความรู้จักกับ 14 โซนที่ว่ากันดีกว่า

• หน้าผากด้านซ้ายและขวา : สื่อถึงปัญหาเกี่ยวกับระบบการย่อยอาหารและกระเพาะปัสสาวะ
• ระหว่างคิ้ว : สื่อถึงปัญหาเกี่ยวกับตับ
• หูด้านซ้ายและขวา : สื่อถึงปัญหาเกี่ยวกับไต
• โหนกแก้มด้านซ้ายและขวา : สื่อถึงปัญหาเกี่ยวกับปอด เหงือกและฟัน
• ตาด้านซ้ายและขวา : สื่อถึงปัญหาเกี่ยวกับไตและภูมิแพ้
• จมูกและเหนือริมฝีปาก : สื่อถึงปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและระบบสืบพันธุ์
• คางส่วนซ้ายและขวา : สื่อถึงปัญหาเกี่ยวกับรังไข่
• คางส่วนกลาง : สื่อถึงปัญหาเกี่ยวกับลำไส้เล็ก
• คอและหน้าอก : สื่อถึงปัญหาเกี่ยวกับความเครียด

ฉะนั้น เคล็ดลับผิวสวย สุขภาพดี ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ ต้องเริ่มต้นจากการรู้จักเลือกซื้อ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ และทรีตเมนต์ ให้ถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพผิวอย่างแท้จริง ซึ่งจะทำได้ก็ต่อเมื่อคุณรู้จักและเข้าใจผิวของคุณเองดีพอ หากวันไหนว่างก็เข้ามา พูดคุย ตรวจระบบไหลเวียนเลือดของผิวหน้า เช็คอายุผิวกันได้ที่ โบเต้ ชั้นสาม ซีพี สีลม

ทรีตเมนต์หน้า…สิ่งจำเป็นสำหรับสาวชอบเมกอัพ

สาวๆ ที่รักสวยรักงามและชื่นชอบการเมกอัพทั้งหลาย คุณทราบหรือไม่ว่าเครื่องสำอางที่ใช้เมกอัพเพื่อเสริมบุคลิกให้สวยเด่นอยู่ทุกวันนั้น เบื้องหลังความสวยนั้นก็สามารถเปลี่ยนลุคสาวๆ ของคุณให้กลายเป็นสาวแก่ได้เช่นกัน